YAMAHA DM7
YAMAHA DM7
ดิจิตอลมิกเซอร์ 120 อินพุต 48 บัส 96 kHz
YAMAHA DM7 สามารถรองรับ Input ได้สูงสุด 120 แชนแนล (Mono) แต่มีอนาล็อก Input ที่ติดมากับตัวมิกเซอร์ 32 แชนแนล และภาค Output อีก 16 แชนแนล มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ Multi-touch Screen ขนาด 12.1″ จำนวน 2 จอ และขนาด 7″ อีก 1 จอ ยังสามารถเป็น USB Audio Interface ได้อีกด้วยในขนาด 18-In / 18-Out บนความละเอียดสูงสุด 32-bit / 96kHz
รองรับระบบ Dante สูงสุดถึง 144-In / 144-Out , AES/EBU 2-In / 2-Out และจำนวนเฟดเดอร์ทั้งหมด 28 เฟดเดอร์ (12+12+4) รวมถึงฟังก์ชันเด็ดอย่าง Split Mode ที่สามารถแบ่งการทำงานของมิกเซอร์ออก 2 ฝั่ง ทำงานแยกกันได้อิสระ ยกตัวอย่าง เช่น คนหนึ่งมิกซ์มอนิเตอร์ อีกคนหนึ่งมิกซ์ PA เป็นต้น 2 คนช่วยกันมิกซ์ไปเลยในมิกเซอร์เพียงเครื่องเดียว
ฟังก์ชัน YAMAHA DM7
- ฟังก์ชันเด็ดหลัก ๆ ของ DM7 – Series ก็คือ Split Mode ซึ่งช่วยให้ช่อง Input , Scene และ Mix Bus สามารถทำงานแยกส่วนกันได้ ทำให้ DM7 หรือ DM7 Compact เพียงแค่ 1 ตัวสามารถทำหน้าที่เหมือนเป็นมิกเซอร์ 2 ตัวแยกกันได้ เช่น ผู้ใช้สามารถช่วยกันมิกซ์เสียงในส่วนของ FOH และมอนิเตอร์ ไปพร้อมกัน ๆ ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาทำทีละส่วน
- ระบบเครือข่าย Dante ออนบอร์ด รองรับได้สูงสุดถึง 144-In / 144-Out และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จากผู้ผลิตหลากหลายรายได้ เพื่อให้ได้ระบบเสียงที่มีความยืดหยุ่น และขยายสเกลระบบเสียงของคุณได้มาก
- พอร์ต USB-C ด้านหลังที่สามารถทำหน้าที่เป็น Audio Interface ขนาด 18-In / 18-Out สำหรับการบันทึก เผยแพร่ เล่นสื่อ และเชื่อมต่อกับระบบการประชุม รวมถึงการควบคุมผ่านอุปกรณ์ MIDI และโปรแกรม DAW ต่าง ๆ ที่สนับสนุนการทำงาน
- เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน DM7 มีกำลังไฟสำรองที่เป็น Redundant Power Supply หรือแหล่งจ่ายไฟแบบ 2 ระบบ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ได้ว่ามิกเซอร์จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันใหม่ นั่นคือฟังก์ชัน Assist ซึ่งช่วยในการแนะนำตั้งแต่ขั้นตอนการปรับแต่ง , การตั้งชื่อแชนแนล และการคุมบาลานซ์เฟดเดอร์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ลดเวลาเตรียมการได้ และติดตั้งระบบเสียงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
- มี “ซอฟต์แวร์” และ “แอปพลิเคชัน” หลากหลายที่รองรับ เช่น DM7 Editor , DM7 StageMix , MonitorMix , Console File Converter , ProVisionaire Control และ ProVisionaire Touch ซึ่งช่วยให้สามารถเตรียมระบบเสียงได้แบบออฟไลน์ มิกซ์เสียงด้วยระบบไร้สาย การจัดการเสียงของมอนิเตอร์ และการควบคุมอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้ (รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง)
- รวมถึงฟังก์ชันเซิร์ฟเวอร์ Open Sound Control (OSC) ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมเครื่องมิกเซอร์จากอุปกรณ์ที่รองรับ OSC ได้ นอกจากนี้ DM7 Compact ยังสามารถติดตั้งในแร็คขนาด 19 นิ้วมาใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
คุณสมบัติ และการเชื่อมต่อ YAMAHA DM7
- Input : สูงสุด 120 แชนแนล (Mono)
- Buses : 48 Mix + 12 Matrix + 2 Stereo
- จอแสดงผล : แบบ Multi-touch Screen ขนาด 12.1″ จำนวน 2 จอ และขนาด 7″ จำนวน 1 จอ
- เฟดเดอร์ : 28 เฟดเดอร์ (12+12+4)
- อนาล็อก I/O : 32-In / 16-Out
- Dante : 144-In / 144-Out
- AES/EBU : 2-In / 2-Out
- รองรับการ์ด PY 1 Slot : PY64-MD , PY8-AE และ PY-MIDI-GPI
- USB Audio Interface : 18-In / 18-Out
- แหล่งจ่ายไฟ : Power Supply แบบ Redundant ช่วยแบ่งจ่ายไฟ
- อัตรากินไฟ : 240 วัตต์
- ขนาด : 793 mm x 324 mm x 564 mm
- น้ำหนักรวม : 23.5 kg
ความสามารถในการขยายคอนโซล
DM7 – Series สามารถขยายคอนโซลได้ด้วยการเพิ่มโมดูล DM7 Control เพื่อสร้างระบบ DM7-EX หรือ DM7-EX Compact พร้อมชุดซอฟต์แวร์ และรองรับการ์ด PY ประกอบด้วย
- PY64-MD (64 MADI Input / Output)
- PY8-AE (8-In / 8 Out AES/EBU D-Sub 25-pin Connector)
- PY-MIDI-GPI (DIN 5-pin & D-Sub 15-pin Connectors)
นอกจากนี้ DM7 และ DM7 Compact ยังมาพร้อมกับ VST Rack Elements ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โฮสต์ปลั๊กอิน ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์เอฟเฟคแร็คได้ตามต้องการ และซอฟต์แวร์ Nuendo Live DAW ของ Steinberg ซึ่งได้รับการปรับให้เหมาะกับการบันทึกการแสดงสด